วันที่ 22 ธันวาคม 2568 คณะกรรมการ บริษัท ธนารักษ์พัฒนาสินทรัพย์ จำกัด หรือ DAD Asset Development นำโดย นายอัครุตม์ สนธยานนท์ ประธานกรรมการ DAD พร้อมคณะ เดินทางเข้าเยี่ยมชมอาคารกักเก็บพลังงานไฮโดรเจน โดยมี ดร.นาฬิกอติภัค แสงสนิท กรรมการผู้จัดการ ธพส. นำชมสถานที่ โดยอาคารดังกล่าวจะเริ่มเปิดใช้งานผลิตไฟฟ้าในต้นปี 2569 ณ อาคารกักเก็บพลังงานไฮโดรเจน ศูนย์ราชการเฉลิมพระเกียรติฯ ถนนแจ้งวัฒนะ
ดร.นาฬิกอติภัค กล่าวว่า ธพส. ต้องการสร้างต้นแบบให้แก่หน่วยงานภาครัฐ ในด้านการนำนวัตกรรมใหม่ มาใช้ให้เกิดประโยชน์ โดยการจัดการด้านพลังงานเป็นส่วนหนึ่งในเป้าหมายสำคัญในการดำเนินงานของ ธพส. เนื่องจาก ศูนย์ราชการเฉลิมพระเกียรติฯ มีอาคารขนาดใหญ่ ที่แต่ละวันมีความต้องการใช้พลังงานในปริมาณมาก จึงริเริ่มตั้งแต่การติดตั้งแผงโซลาร์เซลล์ผลิตไฟฟ้า การเลือกใช้เทคโนโลยีที่ประหยัดพลังงาน ตลอดจนการเลือกใช้วัสดุอุปกรณ์ก่อสร้างอาคารที่ช่วยลดอุณหภูมิความร้อน และก้าวไปอีกขั้นของการดำเนินงาน คือการจัดสร้างอาคารกักเก็บพลังงานไฮโดรเจน
อาคารดังกล่าว จะเป็นสถานที่ติดตั้งเทคโนโลยีกักเก็บพลังงานในรูปของก๊าซไฮโดรเจน โดยจะนำพลังงานไฟฟ้าจากแผงโซลาร์เซลล์ที่เหลือจากการใช้ในเวลากลางวัน มาผ่านกระบวนการแยกไฮโดรเจนออกจากน้ำ (Electrolysis) จากนั้นกักเก็บก๊าซไฮโดรเจนเพื่อใช้เป็นเชื้อเพลิงในการผลิตไฟฟ้าผ่านเซลล์เชื้อเพลิง (Fuel Cell) และมีระบบกักเก็บพลังงานในแบตเตอรี่ เพื่อเป็นพลังงานสำรองในเวลากลางคืนหรือเมื่อมีความต้องการ
“DAD มุ่งมั่นที่จะบุกเบิกนวัตกรรมใหม่ๆ เพื่อเป็นต้นแบบของผู้นำด้านพลังงานทางเลือก ให้กับหน่วยงานอื่นๆ ของรัฐ และให้ความสำคัญกับการลงทุนเพื่อความคุ้มค่าในระยะยาว สอดคล้องกับเป้าหมายการพัฒนาที่ยืดหยุ่นและยั่งยืน จึงได้สร้างอาคารกักเก็บพลังงานไฮโดรเจน และเริ่มเดินเครื่องผลิตแล้ว เพื่อจ่ายกระแสไฟฟ้าให้กับอาคารธนพิพัฒน์ ที่ตั้งใจให้เป็นอาคารต้นแบบอาคารพลังงานสะอาดเป็นศูนย์ หรือ Net Zero Energy Building แห่งแรกของศูนย์ราชการเฉลิมพระเกียรติฯ ซึ่งเป็นไปตามแผนยุทธศาสตร์ 5 ปี ภายใต้แนวคิด BCG Model ช่วยลดการพึ่งพาพลังงานจากภายนอก และเสริมสร้างความยั่งยืนให้กับอาคารอย่างแท้จริง” ดร.นาฬิกอติภัค กล่าว
อาคารกักเก็บพลังงานไฮโดรเจนแห่งนี้ มีกำลังการผลิตไฟฟ้าขนาด 350 kWh ปัจจุบันเริ่มเดินเครื่องผลิตแล้ว โดยใช้พลังงานไฟฟ้าโซลาร์รูฟ (Solar Rooftop) ที่เหลือจากการจ่ายพลังงานไฟฟ้าให้พื้นที่ส่วนกลาง ขนาด 168 kW นำมากักเก็บพลังงานในระบบแบตเตอรี่ที่มีขนาดกำลังการผลิตไฟฟ้า 200 kWh และระบบกักเก็บพลังงานในรูปแบบไฮโดรเจนที่มีขนาดกำลังการผลิตไฟฟ้า 150 kWh โดยจ่ายให้กับอาคารธนพิพัฒน์ในช่วงเวลาที่โซลาร์รูฟ ไม่สามารถผลิตกระแสไฟฟ้าได้เพื่อช่วยให้อาคารธนพิพัฒน์ใช้พลังงานไฟฟ้าจากกริดเป็นศูนย์
สถิติปลายปี 2567 การติดตั้งและผลิตไฟฟ้าจากโซลาร์เซลล์ ในศูนย์ราชการเฉลิมพระเกียรติฯ ครอบคลุมอาคารรวม 10 แห่ง ด้วยกำลังการผลิตติดตั้งรวม 4,548.8 กิโลวัตต์ (kW) ซึ่งสามารถผลิตไฟฟ้าได้เฉลี่ยประมาณ 340,000 หน่วยต่อเดือน (kWh) ระบบนี้สร้างพลังงานสะอาดได้รวมกว่า 3,972,081 หน่วยต่อปี (kWh) ช่วยประหยัดค่าไฟฟ้าได้รวมกว่า 16 ล้านบาทต่อปี หากนำพลังงานที่เหลือทิ้งไปกักเก็บในรูปแบบของก๊าซไฮโดรเจน เพื่อใช้ในยามค่ำคืน ยิ่งทำให้ ธพส. สามารถประหยัดค่าไฟฟ้าต่อปีได้เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง
ทั้งนี้ความสำเร็จจากอาคารธนพิพัฒน์ จะถูกขยายผลไปยังอาคารอื่นๆ ในศูนย์ราชการ เฉลิมพระเกียรติฯ และโครงการก่อสร้างในอนาคตของ DAD ต่อไป เพื่อสร้างแนวทางและทางเลือกใหม่ในการออกแบบและก่อสร้างอาคารที่ยั่งยืน ตลอดจนสนับสนุนนโยบายการลดก๊าซเรือนกระจกของประเทศให้เกิดผลเป็นรูปธรรมในวงกว้างในหน่วยงานภาครัฐต่อไป
ปัจจุบัน พลังงานไฮโดรเจนถูกนำมาใช้แพร่หลายในประเทศที่มีเป้าหมายลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกอย่างจริงจัง เนื่องจากไฮโดรเจนเป็นพลังงานสะอาดที่เมื่อใช้งานแล้วไม่ปล่อยคาร์บอนไดออกไซด์ มีความเหมาะสมกับพื้นที่เมืองที่มีการใช้พลังงานสูง และต้องการระบบกักเก็บพลังงานจากแหล่งพลังงานหมุนเวียน เช่น โซลาร์เซลล์ เพื่อใช้ได้อย่างต่อเนื่องตลอด 24 ชั่วโมง การนำพลังงานไฮโดรเจนมาใช้จึงช่วยเพิ่มเสถียรภาพด้านพลังงาน ลดการพึ่งพาไฟฟ้าจากเชื้อเพลิงฟอสซิล และมีบทบาทสำคัญในการขับเคลื่อนโลกสู่เป้าหมาย Net Zero Emission พร้อมสร้างสมดุลระหว่างการพัฒนาเมือง คุณภาพชีวิต และการรักษาสิ่งแวดล้อมอย่างยั่งยืน